ประธานาธิบดีสหรัฐมีคำสั่งให้บุคลากรในทำเนียบขาว “เป็นกลุ่มหลัง” ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 “หากไม่จำเป็นถึงขีดสุด”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ทวีตข้อความเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ว่าบุคลากรซึ่งทำงานอยู่ในทำเนียบขาวควรเป็นกลุ่มซึ่งได้รับวัคซีน “เป็นกลุ่มหลัง ยกเว้นจำเป็นอย่างถึงที่สุดเท่านั้น” และเขาได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขแนวทางปฏิบัติในเรื่องนี้แล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าตัวเองไม่ใช่ “กลุ่มแรก” ที่จะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยจะรอเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
 
ทั้งนี้ สหรัฐเตรียมแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าว ที่ผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ร่วมกับบริษัทไบโอเอ็นเทคของเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค.นี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังได้รับการรับรอง “เป็นกรณีฉุกเฉิน” จากคณะกรรมการอาหารและยา ( เอฟดีเอ ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
 
อย่างไรก็ตาม สื่อหลายแห่งในอเมริการายงานโดยอ้างคำกล่าวของนายจอห์น อัลล์ยอต โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการของประเทศ จัดเป็นหนึ่งในบุคคลกลุ่มแรกซึ่งจะได้รับการฉีดวัคซีน แต่อัลล์ยอตไม่ได้กล่าวชัดเจน ว่าทรัมป์ ซึ่งเคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 มาแล้ว และรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ จะได้รับการฉีดวัคซีน “ทันที” เลยหรือไม่ แต่ให้เหตุผลของการที่ “บุคคลสำคัญ” จะได้รับวัคซีนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการบริหารจะเป็นไปอย่างราบรื่น ท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเช่นนี้